5 ประตู 2 แอสซิสต์ของ “จ๊อบ” โชติภัทร พุ่มแก้ว ในฤดูกาล 22/23 ประวัติและอัปเดตข่าวสารนักเตะ

Chotiphat Phumkaew

จากดาวรุ่งที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับ 2 สโมสร สู่ดาวรุ่งดวงใหม่ที่พร้อมนำทัพกว่างซง ตอกย้ำความสำเร็จบนเวทีไทยลีกอีกครั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสโมสรที่เน้นสร้างอคาเดมี ที่สามารถดันเลือดใหม่เข้าสู่ทีมชุดใหญ่ได้หลายคน เมื่อพูดถึงนักเตะอะคาเดมี่ที่ดังที่สุดของมณฑลกวางตุ้ง คงหนีไม่พ้น เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่วันนี้ไม่ได้เป็นเพียงกำลังหลักของสโมสรเท่านั้น แต่ยังเป็นคนสำคัญของทีมชาติไทย ชุดฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ในปี 2019 ที่ผ่านมา แต่ก็มีอีกหนึ่งนักเตะที่กอดคอกันตั้งแต่ยังอยู่ในชุดเยาวชน เขาเป็นเพื่อนสนิทของเอกนิษฐ์ ปัญญา เคยร่วมงานกันที่ เชียงราย ซิตี้, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และวันนี้ทั้งคู่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ในฐานะผู้เล่น 11 คนแรกของสโมสรที่เลี้ยงดูพวกเขา และคนที่ถูกกล่าวถึงไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก โชติภัทร์ พุ่มแก้ว ปีกตัวรุกที่พูดน้อยและโจมตีอย่างหนักของทัพ กว่างโจว… โชติภัทร พุ่มแก้ว หรือ จ๊อบ ชายหนุ่มจากจังหวัดนครสวรรค์ เติบโตด้วยหัวใจที่รักในกีฬาฟุตบอล เมื่ออายุได้ 14 ปี จ๊อบก้าวเข้าสู่สถานศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดของภาคเหนือ ได้แก่ ทีมเยาวชนของ เชียงราย ยูไนเต็ด กับเป้าหมายการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จ๊อบ ค่อนข้างเป็นเด็กเงียบๆ พูดน้อย แต่อยู่ในสนาม เขาเป็นผู้เล่นระดับท็อปที่แสดงให้เห็น 100 เปอร์เซ็นต์เสมอ เท้าของเขาโดดเด่นเกินกว่าอายุของเขา จนถูกดันติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกด้วยวัยเพียง 17 ปี ยุคโค้ชโจ ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น คุมทัพ โดยประเดิมสนามเป็นตัวจริงทันทีในเกมเหย้า ชนะนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 4-2 ในฤดูกาล 2558 อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดในตอนนั้นทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากนัก ส่วนใหญ่เป็นสำรอง ทำให้ในปี 2560 ถูกปล่อยตัวไปร่วมทีม เชียงราย ซิตี้ สโมสรไทยลีก 4 ยืมไปใช้งานพร้อมกับ “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญางาน แม้จะอายุยังน้อยแต่ฝีเท้าดีจนเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมทีมรวมถึงคู่แข่ง แม้ทั้งคู่จะมีส่วนสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 3 ได้สำเร็จ ก่อนจะเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในระดับไทยลีก 2 กับทีมเพื่อนบ้านอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี ในฤดูกาล 2018 การวัดการเล่นของตัวเองนั้นยอดเยี่ยม เขาคือกำลังสำคัญของพยัคฆ์ล้านนาจวบจนวาระสุดท้ายก็ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ เมื่อเชียงใหม่ เอฟซี เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร แต่ถึงแม้ผลงานจะเป็นที่ประจักษ์ แต่ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก็ยังไม่รีบดึงตัวเขากลับมาสู่ทีม เนื่องจากยังต้องการให้ดาวเตะรายนี้มีประสบการณ์ในลีกสูงสุดมากกว่านั่งซุ้มสำรอง จ็อบส์ ยังคงพัฒนาตัวเองต่อไป แข็งแกร่งขึ้นเร็วกว่าเดิม มีทักษะฟุตบอลดีขึ้นกว่าเดิม โดยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่เวียดนาม จ็อบถูก อเล็กซานเดร กาม่า เรียกตัวไปร่วมทัพ เขาโดดเด่นในฐานะแบ็คขวา แต่ฝีเท้าสวนทางกับผลงานของสโมสร แม้จะลงเล่นให้ทีมไป 23 นัด ยิงได้ 3 ประตู แต่เชียงใหม่ เอฟซี ตกชั้นจากลีกสูงสุด ฤดูกาล 2020 เปรียบเสมือนช่วงเวลาที่จ็อบรอคอยเมื่อเขากลับมาร่วมทีมสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่เหมือนสาม ปีที่แล้ว และพร้อมสู้เพื่อตำแหน่งในทีมเพื่อทำตามความฝันในการรับใช้ต้นสังกัดที่แท้จริงในฐานะนักเตะคนสำคัญ ซึ่งเขาก็ทำได้จริง ดาวเตะวัย 22 ปียึดตำแหน่ง 11 คนแรกในกวางตุ้งได้อย่างเหนียวแน่น เขาสามารถเล่นได้ทั้งแบ็คขวาและปีกขวา ทุกเกมที่เขาได้รับโอกาสลงเล่น เขาแสดงความทุ่มเทเกินร้อย ไม่ยอมแพ้ วิ่งสู้ฟัดตลอด 90 นาทีโดยไม่ย่อท้อ เขาเพิ่งยิงประตูช่วยให้ทีมทะยานขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตารางคะแนน ตามหลังจ่าฝูง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพียง 2 คะแนน