แบงค็อก สะดุดพ่าย ลำพูน-เมืองทอง สุดร้อนแรง 7 เกมติดต่อกัน จบไทยลีกนัดที่ 26 เรียบร้อย รองจ่าฝูง “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บุกพ่าย ลำพูน วอริเออร์ 1-2 ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์ยากขึ้น ด้าน จ่าฝูง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้าน อัด ลำปาง เอฟซี 2-0 นัดหน้าแค่เสมอ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์ทันที ส่วน “กินเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ฮอตฉุดไม่อยู่ คว้าชัยชนะ 7 นัด
ติด เกมส่งท้ายลีกสูงสุดไทย ก่อนฉลองปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์ เตะไปแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นัดที่ 26 จาก 30 นัดที่ 16 ต้องฟาดฟันกัน
ผลงานแต่ละทีมเป็นอย่างไรไปย้อนดูกันอีกครั้ง
เริ่มจากเสาร์ที่ 8 เม.ย.66 เตะ 4 คู่รัวกันมันซัดไปถึง 19 ประตู โปลิศ เทโรฯ นำ 2 หน แต่ปิดเกม เปิดบ้าน เอาชนะ สุโขทัย เอฟซี ไม่ได้ เสมอไปสนุก 2-2 เจ้าถิ่นได้จาก ยศศักดิ์ เชาวนะ น. 7 , เลสลีย์ อับโบ น. 55 ส่วน “ค้างคาวไฟ” ได้จาก อนุชิต เงินบุคคล น. 46 , เคนชิโร่ แดเนียล น. 81 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทำเซอร์ไพรส์ ชนิดช็อกสาวก “สวาดแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เมื่อพลิกสถานการณ์ จากตามหลัง 0-2 มาเอาชนะได้ 5-2 ได้จากการซัดคนละเม็ดของ สุรชาติ สารีพิมพ์ น. 57 , สเตนีโอ จูเนียร์ น. 72 , ธีรศิลป์ แดงดา น. 73 , กรวิชญ์ ทะสา น. 83 , สารัช อยู่เย็น น. 93 ส่วน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ก่อนหน้านี้ไร้พ่ายมา 4 เกมที่ชนะ 3 เสมอ 1 นัด นั้น ได้จาก ชาร์ลี คลัฟ น. 34 , ไทรอน กุสตาโว น. 53 พีที ประจวบ เอฟซี เพิ่มโอกาสรอดตกชั้นสำเร็จ เมื่อเปิดบ้าน กะซวก รองบ๊วย อย่าง หนองบัวพิชญ เอฟซี ฯ ที่จ่อตกชั้นไป 5-1 จากการซัดคนละเม็ดของ จักรกฤษ ลาภตระกูล น. 10 , ประสิทธิ์ จันทุม น. 13 , นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ น. 60 , ชุติพนธ์ ทองแท้ น. 68 , ซามูเอล โรช่า น. 87 ส่วน “พญาไก่ชน” ได้ประตูปลอบใจจาก อิสลาม บาทราน น. 82 เมืองทอง ยูไนเต็ด ฮอตได้อีกเมื่อเปิดบ้าน ชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ไม่ชนะ 5 นัดติดแถมแพ้รวด 3 เกม และหล่นไปอยู่โซนตกชั้นอันดับ 14 ไปได้ 2-0 จากการซัดคนละเม็ด ของ ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ น. 8, วิลเลี่ยน พ็อพพ์ น. 31 “กิเลนผยอง” ชนะ รวด 7 นัดติด ยึดที่ 4 ไว้ได้ โดยหากชนะอีก 2 เกมที่จะพบ หนองบัวพิชญ เอฟซี ( ห ) , ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (ห ) นัดที่ 27,28 จะทำสถิติชนะรวดมากสุดที่ 9 เกมทำลายสถิติเดิม ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ในฤดูกาลนี้ไว้ที่ 8 นัด สำเร็จ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี โชว์ฟอร์มออกทะเลไปไกล เมื่อชนะไม่เป็น 8 นัดติดแถมเป็นการแพ้ถึง 7 และเสมอ 1 นัด เมื่อแพ้คาบ้านให้ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ ปลดล็อก หลังก่อนหน้านี้ไม่ชนะมา 5 เกม ที่แพ้ 4 เสมอ มา 1 นัดไป 1-3 “กว่างโซ้ง” ได้จาก วิคเตอร์ การ์โดโซ่ 2 ประตู น. 16,34 ( จุดโทษ) , โชติภัทร พุ่มแก้ว น. 81 ส่วน ชลบุรี เอฟซี ได้จาก เดนนิส มูริลโล่ น. 25 การท่าเรือ เอฟซี ชนะ 4 นัดติด ยึดที่ 3 เอาไว้ได้หลังเปิดบ้าน ชนะ ราชบุรี เอฟ ได้ 1-0 จากประตูโทน ของ แฮมิลตัน ซัวเรซ น. 53 ซัวเรซ มีโอกาสป้องกันดาวซัลโว ได้เมื่อเหลือตามหลัง ศุภชัย ใจเด็ด ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แค่ 1 ประตูเท่านั้น ลำพูน วอริเออร์ หนีโซนตกชั้นอันดับ 14 ไปอยู่อันดับ 13 สำเร็จ เมื่อเปิดบ้าน ทำ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ชนะมา 4 นัดติดก่อนหน้านี้ได้ 2-1 จาก โมฮัมเหม็ด ออสมาน น. 8 , เจฟเฟรน ซัวเรซ น. 42 ( จุดโทษ) ส่วน “แข้งเทพ” ที่ยังรั้งอันดับ 2 แต่ตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปแล้วถึง 12 แต้ม ขณะที่เหลืออีก 4 เกม ได้จาก มาห์มุ๊ด ดาฮัดดา น. 13 “แข้งเทพ” น่าจะลุ้นแชมป์ยาก เพราะต่อให้อีก 4 เกมที่เหลือ ชนะรวด แต่หาก นัดหน้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเก็บได้แค่ 1 แต้ม เกมเยือน ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด “ปราสาทสายฟ้า” จะคว้าแชมป์ไปทันที หลัง ยูไนเต็ด เปิดบ้าน ชนะ ลำปาง เอฟซี ไปได้ 2-0 จาก โจนาธาน โบลินกิ น. 5 , ลอนซาน่า ดูมบูญ่า น. 19