ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับการขาย “สราห์” กฤษดา กมล ให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตามรายงานข่าว แม้ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขยอดขายอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งไม่เข้าใจ เพราะเหตุใดลีกหรือวัฒนธรรมการซื้อขายของเราจึงไม่เปิดเผยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นอน? โดยระบุด้วยว่าข้อตกลงของ ชลบุรี เอฟซี ขาย “สราห์” นักเตะดาวรุ่งของสโมสร ให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยราคา 30 ล้านบาท ในช่วงที่กฤษฎา นุหอม ชูธงคว้าแชมป์อาเซียน จำไว้ เรียกได้ว่ามีทีมดังในภาคตะวันออกออกมารายงานจริงว่าถ้าจะขายกฤษดาต้องมีมูลค่า 100 ล้านบาท ก่อนที่จะมีข่าวว่าทีมในไทยสนใจรวมทั้งสโมสรด้วย บอกว่ายินดีและพร้อมสนับสนุนหาก “ซอ” จะได้เล่นฟุตบอลที่ญี่ปุ่น ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน 2565 หรือประมาณ 1 ปี 8 เดือนที่แล้ว เพจฟุตบอลสยามได้นำข่าวการขายกฤษฎากมานแห่งชลบุรี เอฟซีว่าถ้าขายต้องได้เงินถึง100ล้าน บาท และจะคุยกับ “เดอะ แรบบิท” ก่อน หาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สนใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ปิดดีล วรชิต กนิษฐ์ศรีบำเพ็ญ แล้ว ก่อนหน้านี้ ชลบุรี เอฟซี เคยขายนักเตะไปหลายรายแล้วทั้ง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ให้กับลีกอินโดนีเซียได้เงิน 1 ล้านบาท สุรีย์ โสกา เกียรติประวุฒิ สายแวว ไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เงิน 5 ล้านบาท ขาย อดุล ลาโซ่ และ โคเน่ คาสซิม ให้กับ กวินาเร ทตโตริ เจ3 ประเทศญี่ปุ่น ได้เงิน 3 ล้านบาท เนย์ ฟาเบียโน โอลิเวร่า ไปเยือนเมลเบิร์น วิคตอรี่ โอรี่ได้เงิน 4 ล้านบาท, ณัฐพล ปานฤทธิ์ ขายให้เมืองทอง ยูไนเต็ด 6 แสนบาท, สุราษฎร์ สุขะ เมลเบิร์น 1.5 ล้านบาท, วรชิต กนิษฐ์ศรีบำเพ็ญ ขายให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประมาณ 38 ล้านบาท เมื่อวานนี้ วันที่ 1 ธันวาคม 2564 งานนี้ผลงานของ กฤษฎา กมาน จะโดดเด่นขนาดไหนกับเสื้อสีใหม่ของทีม “เดอะ แรบบิท” ? เรามารอดูกัน แต่ที่แน่ๆสินค้าคุณภาพดีอย่าง “สราห์” ที่เงินที่ได้รับจะนำไปใช้สนับสนุนทีม “ฉลามชลบุรี” มีแรงไม่มากก็น้อยเดินหน้าต่อไปได้แน่นอน