สิ่งที่ดีที่สุดในการดูและทำในเชียงราย สถานที่ ท่องเที่ยว ที่ดีที่สุดในจังหวัด

นักท่องเที่ยวหลายคนมองว่าเชียงรายเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากการเดินป่าในภูเขาและเยี่ยมชมหมู่บ้านชนเผ่า โดยเฉพาะในเขตเมืองถูกมองว่าไม่คุ้มที่จะเสียเวลามาเยี่ยมชมเลย แต่ความจริงแล้วเชียงรายมีอะไรให้เที่ยวอีกเยอะ ด้วยการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นหลัก เราพบว่าการเที่ยวชมธรรมชาติเป็นกิจกรรมหลักในการท่องเที่ยวของจังหวัดนี้ ในขณะที่ดอยแม่สลองและสามเหลี่ยมทองคำเหมาะที่สุดสำหรับการเดินป่าตอนกลางคืนหรือพักค้างคืนที่หมู่บ้านชนเผ่า แต่ถ้าอยากผจญภัยก็ไม่ต้องไปไกลถึงขนาดนั้น น้ำแม่กกเป็นสถานที่ผจญภัยที่มีทั้งน้ำตกที่ซ่อนอยู่ น้ำพุร้อน ถ้ำ และหมู่บ้านชนเผ่าที่อยู่ใกล้ตัวเมือง เรายังสามารถเช่าเรือหางยาวและกำหนดจุดหมายที่จะเที่ยวได้เท่าที่ต้องการ นอกจากนั้นยังมีทางเลือกอื่นๆ เช่น สนามกอล์ฟ สปา ปั่นจักรยาน เที่ยววัด เป็นต้น และอย่างที่ทราบกันดีว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งตั้งอยู่ห่างกัน การใช้บริการรถเช่าในเชียงรายจึงสะดวกกว่าการใช้บริการรถสาธารณะ

1. ไปที่ถ้ำ

หากคุณผู้อ่านไม่กลัวความมืดและชอบเดินในที่ที่ไม่คุ้นเคย ก็ลองแวะวัดถ้ำพระ (เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดถ้ำปลาและวัดลิงเพราะมีลิงอาศัยอยู่มาก) เป็นถ้ำที่อยู่ห่างจากอำเภอแม่สายประมาณ 13 กม. ตั้งอยู่บนเขาสูงชัน ด้านหลังอาคารหลักของวัด เราต้องเดินขึ้นบันไดไป 200 ขั้น ก็จะเจอกำแพงหินงอกหินย้อยสวยงามประดับด้วยใบไม้สีเขียวขจีสองข้างทาง

ภายในถ้ำมืดสนิท ในห้องโถงใหญ่สองห้องมีพระพุทธรูปประดับด้วยลูกปัดพม่า และสุดทางจะมีบันไดรอเราอยู่ เมื่อขึ้นไปจะสามารถมองเห็นวิวทั่วผืนป่าที่มีพรมแดนติดกับไทย พม่า และลาว (สามเหลี่ยมทองคำ) บริเวณที่ติดกับเชียงรายคือถ้ำพระ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก สามารถนั่งเรือหางยาวจากท่าเรือ CR เมื่อเข้าไปด้านในจะเป็นบริเวณวัดที่มีพระพุทธรูปเก่าแก่กว่า 80 องค์

2.นั่งรถรางชมเมือง

ถ้าเราไปเชียงรายช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม อยากให้ทุกคนลองนั่งรถรางไปซื้อดู. ที่เที่ยวยอดนิยม 9 แห่ง ได้แก่ อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง, วัดพระสิงห์, วัดพระแก้ว, วัดดอยงำเมือง, วัดพระธาตุดอยจอมทอง, หอนาฬิกาเชียงราย, สวนแม่ฟ้าหลวง ก่อนจะวน ขากลับอนุสาวรีย์เราจะลงจุดไหนก็ได้ ที่สำคัญคือรถรางเปิดให้ขึ้นฟรี

3. ปั่นจักรยาน

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการชมชีวิตในชนบทคือการขี่จักรยาน การอยู่ในใจกลางเมืองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับนักปั่นจักรยานเพราะถนนในเมืองนั้นเรียบและปลอดภัย นักปั่นจักรยานที่จริงจังจะได้พบกับการผจญภัยด้วยการปั่นจักรยานเสือภูเขาและเดินป่า ลัดเลาะไปตามถนนลูกรัง ข้ามสะพานไม้ และปั่นจักรยานขึ้นเขา การปั่นจักรยานตอนกลางคืนจะท้าทายที่สุดและอาจใช้เวลา 2-5 วันหรือนานกว่านั้นก็ได้หากต้องการ เราจะได้ชมวิวสวยๆและเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำ ปางช้าง เยี่ยมชมหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ

4. การเล่นกอล์ฟ

บรรยากาศที่ผ่อนคลายของเชียงรายและความสวยงามของภูเขาอันกว้างใหญ่ เหมาะแก่การเล่นกอล์ฟ เวลาออกไปตีกอล์ฟ ก็จะมีแค่เรา ลูกกอล์ฟ และเสียงของธรรมชาติ

เชียงรายมีสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดสองแห่ง คือ สันติบุรี คันทรี คลับ ออกแบบโดยนักออกแบบสนามกอล์ฟสองคน “โรเบิร์ต เทรนต์ โจนส์ และ วอเตอร์ฟอร์ด วัลเลย์” สนามกอล์ฟ 18 หลุมแห่งนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้ อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 20 นาที เป็นสนามกอล์ฟที่ดีที่สุด มีหลุม 8 หลุมพร้อมสนามเรียบที่มีแหล่งน้ำ และอีก 8 หลุมในพื้นที่ลูกคลื่นยาว

ถัดไปคือสนามกอล์ฟ Waterford Valley อยู่ห่างจากตัวเมือง 45 นาที เป็นสนามกอล์ฟที่มีวิวภูเขาเขียวขจีและยังถือเป็นสนามกอล์ฟที่สวยที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย

5. การเดินทางไปยังหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ

เชียงรายมีหมู่บ้านหกเผ่าและเหมาะสำหรับการค้างคืนบนภูเขา หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการติดต่อคือผ่านทางสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน มีการจัดทัวร์ตั้งแต่ครึ่งวันถึงสามวัน และมีหลายโปรแกรมให้เรานั่งหลังช้างและนั่งเรือหางยาวและพักค้างคืนที่หมู่บ้านชนเผ่าที่เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของพวกเขา สำหรับรายได้ทั้งหมดสมาคมจะนำไปช่วยเหลือการกุศลต่อไป.

6. ไปที่แม่น้ำกก

แม่น้ำกก ยาว 130 กิโลเมตร ไหลผ่านจังหวัดเชียงรายจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก เป็นแม่น้ำที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก มีต้นกำเนิดมาจากบ้านท่าตอนในจังหวัดเชียงใหม่ตัดผ่านภูเขาและสวนกล้วยสุดลูกหูลูกตา ผ่านหมู่บ้านชาวเขาและบ่อน้ำพุร้อน การเดินทางจากบ้านท่าตอนไปเชียงรายใช้เวลาสี่ชั่วโมงโดยเรือยาว ที่เราจะไปแบบเที่ยวเดียวก็ได้ หรือจะแวะ night trek เยี่ยมชมหมู่บ้านชนเผ่าและแช่น้ำพุร้อนก็ได้ หรือถ้าใครมีเวลาน้อยหรืออยากเลือกเส้นทางเองสามารถนั่งเรือเป็นระยะทางสั้นๆ

7. ไปที่บ่อน้ำพุร้อน

ที่นี่ไม่เหมือนกับบ่อน้ำพุร้อนในญี่ปุ่น แต่การไปแช่บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้มากเช่นกัน และยังได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเชียงรายที่จะทำให้เราอยากกลับมาเยือนอีกอย่างแน่นอน น้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้เชียงใหม่ที่สุดคือน้ำพุร้อนโป่งพระบาทซึ่งอยู่ห่างออกไป 7 กิโลเมตร มีอุณหภูมิประมาณ 48-50 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ร้อนพอที่จะต้มไข่ได้ (กิจกรรมยอดฮิตที่คนนิยมไปแช่น้ำพุร้อนกัน) เราสามารถเช่าห้องพักที่นี่และพักผ่อนด้วยการเดินป่าขึ้นน้ำตกโป่งพระบาท แต่ถ้าชอบธรรมชาติก็ลองแวะน้ำพุร้อนห้วยหมากเลี่ยมและน้ำพุร้อนผาเสิดซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปแช่ไข่ต้มประมาณ 20 กิโลเมตร ยังสามารถเดินเล่นชมบรรยากาศภูเขาโดยรอบได้อีกด้วย

8. ไปที่สปา

มีประสบการณ์ดีๆ มากมายรอผู้รักสปาและนักเดินทางเพื่อการพักผ่อน เราอาจพบสปาที่เต็มไปด้วยเทียนหอม ดอกลีลาวดี ลอยอยู่ในอ่าง และรับเครื่องดื่มสมุนไพรหลังทำสปาเสร็จ หรืออาจจะไปที่ร้านค้าใจกลางเมืองสักพัก โรงแรมหรูและรีสอร์ทส่วนใหญ่มีสปา และถ้าอยู่ติดแม่น้ำกกด้วยจะทำให้เราได้ชมวิวแม่น้ำที่สวยงาม

9. เดินป่าและขี่ช้าง

สัมผัสป่าและน้ำตกหลายชั้น เส้นทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด และสัมผัสแห่งการค้นพบ นั่นทำให้การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่ท้าทายที่สุดที่ต้องลอง เราสามารถเดินตามเส้นทางเดินป่าหรือนั่งช้างไปเที่ยวดอยแม่ฟ้าหลวง แม่สลอง และบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ทัวร์กลางคืนมีให้บริการที่รีสอร์ตและเกสต์เฮาส์ส่วนใหญ่ในเมือง ซึ่งมักจะรวมถึงการเยี่ยมชมหมู่บ้านชนเผ่าหนึ่งหรือสองหมู่บ้าน ล่องแพไม้ไผ่ และแช่น้ำพุร้อนหรือน้ำตกหากเราต้องการ

10. ไปเที่ยวน้ำตก

น้ำตกในจังหวัดเชียงรายส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ น้ำตกขุนกรณ์อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 17 กม. เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดและกล่าวกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในจังหวัดเชียงราย ที่ความสูง 70 เมตร น้ำตกตกลงมาอย่างรุนแรง ละอองกระจายเป็นรัศมี 10 ไมล์ การเดินป่าไปยังน้ำตกเป็นหนึ่งในไฮไลท์หลัก การเดิน 45 นาทีเป็นเส้นทางเดินป่ายาว 1.2 กิโลเมตรที่ตัดผ่านแอ่งน้ำและสะพานไม้ไผ่จำนวนมาก